รู้จริงทุกเรื่องโกโก้


คอมพาวด์ vs คูเวอร์เจอร์ คืออะไร ต่างกันยังไง

คอมพาวด์ vs คูเวอร์เจอร์ คืออะไร ต่างกันยังไง

ความแตกต่างระหว่างช็อกโกแลตคอมพาวด์ และช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ที่มือใหม่ทำขนมต้องรู้

“ช็อกโกแลตคอมพาวด์” และ “ช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์” มีรสชาติ เนื้อสัมผัส และราคาที่แตกต่างกัน วันนี้ทิวลิปจะพาทุกคนไปรู้จักว่า Chocolate compound คืออะไร? Couverture chocolate คืออะไร? และเปรียบเทียบความแตกต่างของช็อกโกแลตทั้งสองชนิดแบบละเอียด พร้อมตารางเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่าแต่ละประเภทเหมาะกับงานขนมหรือเบเกอรี่แบบไหน เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้ช็อกโกแลตได้ตรงกับความต้องการ และประหยัดงบประมาณมากที่สุด

 

Couverture Chocolate คืออะไร

Couverture Chocolate คืออะไร

Couverture Chocolate หรือช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ คือ ช็อกโกแลตแท้คุณภาพสูงที่มีปริมาณโกโก้บัตเตอร์หรือไขมันโกโก้ (cocoa butter) ต้องไม่ต่ำกว่า 31% ตามกฎบังคับของ EU ทำให้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม มันวาว และรสชาติช็อกโกแลตหอมมันเข้มข้น เหมาะสำหรับเชฟ และนักทำขนมที่มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการจัดการอุณหภูมิ

ส่วนประกอบหลัก

  • โกโก้ลิเคอร์ (Cocoa liquor) / โกโก้แมส (cocoa mass)
  • โกโก้บัตเตอร์ (cocoa butter)
  • น้ำตาล
  • นมผง (ในสูตรมิลค์หรือไวท์ช็อกโกแลต)

ข้อดีของช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์

  • รสชาติ และกลิ่นหอมของโกโก้แท้ เข้มข้น และเป็นธรรมชาติ
  • เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ละลายในปาก และมันวาวสวย จากไขมันโกโก้
  • เหมาะกับการเคลือบ ตกแต่ง หรือขึ้นรูปขนมที่ต้องการความประณีต
  • ให้ผลลัพธ์ขนมที่ดูมืออาชีพ และน่ารับประทาน

ข้อเสียของช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์

  • ราคาสูงกว่าช็อกโกแลตคอมพาวด์
  • ต้องใช้เทคนิคการละลาย และควบคุมอุณหภูมิ (เทมเปอร์) เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัส และความเงางามที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานแต่ละประเภท
  • ต้องระวังเรื่องอุณหภูมิ และความชื้นในการเก็บรักษา 

ช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ใช้อย่างไร เหมาะกับอะไร

  • เหมาะกับการนำมาเคลือบขนมเมนูต่างๆ เช่น เค้ก ทรัฟเฟิล บอนบอน เป็นต้น
  • ใช้สำหรับทำช็อกโกแลตแท่ง หรือ ช็อกโกแลตสอดไส้
  • ช็อกโกแลตมีความเหนียวข้น และ ลื่นไหลอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะกับนำมาตกแต่งเมนูขนมหวาน
  • เหมาะกับเมนูที่ต้องการรสชาติ และเนื้อสัมผัสระดับพรีเมียม

     

ตัวอย่างเมนูที่ใช้ Chocolate Couverture

ตัวอย่างเมนูที่ใช้ Chocolate Couverture

  • เค้กช็อกโกแลตเข้มข้น
  • บราวนี่
  • ช็อกโกแลตลาวา
  • ทรัฟเฟิล
  • มูสช็อกโกแลต
  • ผลไม้เคลือบช็อกโกแลต
  • ช็อกโกแลตตกแต่งหน้าเค้ก

สำหรับใครที่มองหาช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์คุณภาพสูง ขอแนะนำ Embassy Couverture จาก Tulip ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องรสชาติ เนื้อสัมผัส และความสะดวกในการใช้งาน ให้คุณพร้อมสร้างสรรค์เมนูโกโก้แสนพรีเมียม

 

Chocolate compound คืออะไร

Chocolate compound คืออะไร

ช็อกโกแลตคอมพาวด์ คือ ช็อกโกแลตที่ผลิตมาจากไขมันพืชแทนไขมันโกโก้ สามารถเซ็ตตัวได้ง่าย ใช้งานง่าย และมีราคาย่อมเยาว์กว่า เมื่อเทียบกับช็อกโกแล็ตคูเวอร์เจอร์

ส่วนประกอบหลักของ Chocolate Compound

  • น้ำตาล
  • ไขมันพืช
  • ผงโกโก้
  • นมผง (ในสูตรไวท์ช็อกโกแลตหรือมิลค์ช็อกโกแลต)

ข้อดีของช็อกโกแลตคอมพาวด์

  • ใช้งานง่าย: ไม่ต้องเทมเปอร์ สามารถละลายด้วยไมโครเวฟ
  • เซตตัวเร็ว: คงรูปได้ดีโดยไม่ต้องแช่เย็น ทนต่อความร้อนในอุณหภูมิห้อง
  • ประหยัดต้นทุน: ราคาย่อมเยากว่าช็อกโกแลตแท้ เหมาะกับการผลิตในปริมาณมาก
  • เหมาะสำหรับงานตกแต่ง: ให้ผิวสัมผัสเงางาม และคงรูปสวย

ข้อเสียของช็อกโกแลตคอมพาวด์

รสชาติ และเนื้อสัมผัสของช็อกโกแลตคอมพาวด์ อาจไม่เข้มข้นนุ่มนวลเท่าช็อกโกแลตแท้ ขึ้นอยู่กับชนิด และคุณภาพของไขมันพืช และกระบวนการผลิต ของแต่ละแบรนด์สินค้า

ช็อกโกแลตคอมพาวด์ใช้อย่างไร เหมาะกับอะไร

  • ละลายช็อกโกแลตคอมพาวด์ด้วยไมโครเวฟหรือหม้อตุ๋น
  • เหมาะสำหรับ:
  • เคลือบบิสกิต ผลไม้ หน้าเค้ก โดนัท
  • พิมพ์ช็อกโกแลตตกแต่ง
  • ใช้เป็นส่วนผสมในบราวนี่ เค้กช็อกโกแลต

     

ตัวอย่างเมนูที่ใช้ Chocolate Compound

ตัวอย่างเมนูที่ใช้ Chocolate Compound

  • เค้กช็อกโกแลต
  • บราวนี่
  • โดนัทเคลือบช็อกโกแลต
  • บิสกิตเคลือบช็อกโกแลต
  • ผลไม้เคลือบช็อกโกแลต
  • ช็อกโกแลตตกแต่งหน้าเค้ก
  • ซอสช็อกโกแลตสำหรับราดไอศกรีมหรือขนมอื่น ๆ

สำหรับใครที่มองหาช็อกโกแลตคอมพาวด์คุณภาพดี Tulip Compound มีให้เลือกหลายสูตร ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก รสชาติ และความคุ้มค่า เหมาะกับทุกเมนูเบเกอรี และขนมหวานเพราะช็อกโกแลตคอมพาวด์ของทิวลิปมีกระบวนการผลิตโดยใช้ Chocolate Couching Machine เหมือนกับการผลิตช็อกโกแลตแท้  จึงทำให้ได้ช็อกโกแลตเนื้อสัมผัส เนียน ใกล้เคียงช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ 

 

เปรียบเทียบ Chocolate ทั้ง 2 ชนิด แตกต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบ Chocolate ทั้ง 2 ชนิด แตกต่างกันอย่างไร

เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน มาดูตารางเปรียบเทียบระหว่างช็อกโกแลตคอมพาวด์ (Chocolate Compound) และช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ (Chocolate Couverture) กันเลย

 

รายละเอียด

Chocolate Compound

(ช็อกโกแลตคอมพาวด์)

Chocolate Couverture

(ช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์)

ส่วนประกอบหลักน้ำตาล ผงโกโก้ (หรือผงนมกรณีเป็นไวท์หรือมิลค์คอมพาวด์) ไขมันพืชน้ำตาล โกโก้บัตเตอร์ โกโก้แมส (ใช้ผงนมแทนโกโก้แมสกรณีเป็นไวท์ช็อกโกแลต)
รสชาติ/เนื้อสัมผัสรสชาติเข้มข้นคล้ายช็อกโกแลตแท้ แต่เนื้อสัมผัสไม่เนียนนุ่มเท่ารสชาติหอมมันเข้มข้น เนียนนุ่ม ละลายในปาก เนื้อเงางาม
ข้อดีราคาถูกกว่า ใช้งานง่าย ทนความร้อนคุณภาพสูง รสชาติเนื้อสัมผัสดี
การใช้งาน ง่ายกว่า  เพียงแค่ละลายในไมโครเวฟ หรือ ตุ๋นช็อกโกแลตต้องควบคุมอุณหภูมิในการเย็นตัวของช็อกโกแลตอย่างแม่นยำ (Tempering) เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและคุณลักษณะของช็อกโกแลต
การเก็บรักษาเก็บได้ในอุณหภูมิห้อง (ไม่เกิน 28 องศาเซลเซียส)ละลายง่าย  ต้องเก็บในตู้เย็น

 

สรุป ช็อกโกแลตคอมพาวด์ และช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ มีการใช้งานที่เหมือนกัน แต่ข้อแตกต่างจะอยู่ที่ คุณสมบัติการละลาย และ ต้นทุนที่จะกำหนดความเหมาะสมระหว่างการเลือกใช้ช็อกโกแลตคอมพาวด์หรือช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์

โดยช็อกโกแลตคอมพาวด์ ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันพืชเป็นหลัก ช่วยให้สามารถขึ้นรูปได้ง่าย สะดวกในการใช้งาน จึงไม่จำเป็นต้องมีทักษะในการจัดการกับวัตถุดิบมาก และ มีราคาถูกกว่า ดังนั้นช็อกโกแลตคอมพาวด์จึงเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งหัดทำขนม หรือ ผู้ที่ต้องการควบคุมต้นทุน แต่ยังต้องการช็อกโกแลตที่มีความเข้มข้น รสชาติอร่อย

ในอีกด้านหนึ่ง ช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์เป็นช็อกโกแลตแท้ที่ให้เนื้อสัมผัสเนียน มีรสชาติและกลิ่นที่เข้มข้นมากกว่าช็อกโกแลตคอมพาวด์ แต่ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการกับวัตถุดิบมากขึ้น เนื่องจากช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์สามารถละลายได้ง่ายกว่า และเนื่องจากมีราคาสูง จึงเหมาะสำหรับการทำขนมในระดับ มืออาชีพ และผู้ที่ต้องการเน้นคุณภาพมากกว่าช็อกโกแลตคอมพาวด์

โดยทิวลิปมีให้เลือกทั้ง 2 ประเภททั้ง ช็อกโกแลตคอมพาวด์ และ ช็อกโกแลตคูเวอร์เจอร์ ที่สะดวก รวดเร็ว และใช้งานง่าย มาพร้อมคุณภาพระดับมืออาชีพพร้อมสร้างสรรค์รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวช่วยสำคัญของเชฟมืออาชีพ และสายเบเกอรี่ทุกคน

 

แหล่งอ้างอิง: